ข่าวและกิจกรรม

งานแถลงข่าว สถานการณ์เด็กไทยกับภัยออนไลน์ 2562 วันที่ 19 สิงหาคม 2562 ณ กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดย ศูนย์ประสานงานส่งเสริมการปกป้องคุ้มครองเด็กและเยาวชนในการใช้สื่อออนไลน์ หรือ โคแพท (COPAT – Child Online Protection Action Thailand) มีการแถลงผลสำรวจที่ทำร่วมกับ มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย เกี่ยวกับ “สถานการณ์เด็กไทยกับภัยออนไลน์” ซึ่งทำการสำรวจทางออนไลน์เมื่อเดือน กุมภาพันธ์-เมษายน 2562 กลุ่มตัวอย่างผู้ตอบแบบสอบถามอายุ 6-18 ปี จำนวน 15,318 คน จากทั่วประเทศ

เด็กเกือบทั้งหมดเชื่อว่าอินเทอร์เน็ตมีประโยชน์แต่ก็ตระหนักเรื่องภัยอันตรายและความเสี่ยงหลากหลายรูปแบบ ที่น่าเป็นห่วงคือเด็ก 86% เชื่อว่าตนสามารถให้คำแนะนำหรือช่วยเหลือเพื่อนที่ประสบภัยออนไลน์ได้ ในขณะที่ 54% เชื่อว่าเมื่อเกิดกับตนเองสามารถจัดการปัญหานั้นได้ เด็กมากกว่า 83% ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟน ใช้เพื่อพักผ่อน/บันเทิง เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม เป็นหลัก คือ 67

เด็ก 39% ใช้อินเทอร์เน็ต 6 – 10 ชั่วโมงต่อวัน และ 38% เล่นเกมออนไลน์มากกว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งการใช้มากเกินไปเสี่ยงต่อการเสพติดเกมและอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นปัญหาทางสุขภาพจิต เด็ก 31% เคยถูกกลั่นแกล้งรังแกออนไลน์ เพศทางเลือกโดนมากที่สุด คือ 49% เด็ก 40% ไม่ได้บอกใครเกี่ยวกับเรื่องที่โดนกลั่นแกล้ง นั่นหมายถึง เด็กบางส่วนอาจทนทุกข์กับเรื่องที่โดนแกล้ง หรือบางส่วนอาจไม่รู้สึกหรือไม่ได้ให้ค่ากับคนที่แกล้ง

อย่างไรก็ดี เด็ก 34% เคยกลั่นแกล้งรังแกคนอื่นทางออนไลน์ ซึ่งส่วนหนึ่งบอกว่าเป็นการโต้ตอบที่ตนเองโดนแกล้ง การกลั่นแกล้งรังแกทางออนไลน์ สร้างความทุกข์ เจ็บปวด เก็บกด หดหู่ บาดแผลทางใจให้กับเด็ก ซึ่งอาจส่งผลต่อร่างกาย ทำให้นอนไม่หลับ เจ็บป่วยเรื้อรัง เป็นโรคหวาดระแวง ใช้สุราหรือสารเสพติด อาจถึงขั้นทำร้ายตัวเอง ฆ่าตัวตายได้

พ่อแม่ผู้ปกครองหรือครู ควรหมั่นสังเกตอาการเด็กแล้วเข้าช่วยเหลือโดยเร็ว อย่าคิดว่าเป็นเรื่องของเด็กอีกประเดี๋ยวคงผ่านไป เพราะภาพหรือคลิปวิดีโอบนโลกออนไลน์นั้นจะวนเวียนทำร้ายเด็กไม่สิ้นสุด เด็ก 74% เคยพบเห็นสื่อลามกอนาจารทางออนไลน์ 50% เคยพบเห็นสื่อลามกอนาจารเด็ก 6% เคยครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก เคยส่ง ส่งต่อ หรือแชร์ สื่อลามกอนาจารทางออนไลน์ ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมาย เด็ก 2% ยอมรับว่าเคยถ่ายภาพหรือวิดีโอตนเองในลักษณะลามกอนาจารแล้วส่งให้คนอื่น ๆ ด้วย

เด็ก 26% เปิดอ่านอีเมลหรือคลิก link ที่ไม่รู้จัก 34% ให้ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด ภาพถ่ายของตัวเองหรือครอบครัวผ่านสื่อออนไลน์ 35% เคยถ่ายทอดสดหรือ live ในขณะที่ 69% แชร์โลเคชั่นหรือเช็คอินสถานที่ต่าง ๆ ที่ไป พฤติกรรมเหล่านี้เป็นความเสี่ยงที่อาจนำภัยอันตรายมาถึงตัว

เด็ก 1 ใน 4 ที่ตอบแบบสอบ (3,892 คน หรือ 25.4%) เคยนัดพบกับเพื่อนออนไลน์อย่างน้อย 1 ครั้ง และยอมรับว่าถูกเพื่อนที่นัดพบกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดหรือหลายอย่างต่อไปนี้ พูดจาล้อเลียน ดูถูก ทำให้เสียใจ (199 คน หรือ 5.1%) หลอกให้เสียเงินหรือเสียทรัพย์สินอื่น ๆ (80 คน หรือ 2.1%) ละเมิดทางเพศ (73 คน หรือ 1.9%) ทุบตีทำร้ายร่างกาย (67 คน หรือ 1.7%) และ ถ่ายภาพหรือคลิปวิดีโอแล้วนำไปประจาน และ/หรือ ข่มขู่เรียกเงิน (50 คน หรือ1.3%)

ทั้งนี้ กรมกิจการเด็กและเยาวชน โดย COPAT ร่วมกับมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย ได้จัดทำ แนวทางปกป้องคุ้มครองเด็กจากภัยออนไลน์ หรือ Child Online Protection Guideline ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลเพื่อสร้างความตระหนัก รูปแบบของภัยออนไลน์ต่อเด็กและเยาวชน การรับมือกับ Cyber bullying การป้องกันเด็กติดเกม แนวทางการเลี้ยงลูกยุคดิจิทัล ซึ่งต้องติดอาวุธ รู้เท่าทันสื่อ และ ความฉลาดทางดิจิทัล หรือ DQ ให้เด็ก หวังให้ทุกบ้านมีไว้ใช้ดูแลบุตรหลานในยุค 4.0 สามารถอ่านต่อและดาวน์โหลด >> “คู่มือแนวทางปกป้องคุ้มครองเด็กจากภัยออนไลน์” <<

Previous article
อบรมให้ความรู้เรื่อง เท่าทันสื่อและป้องกันภัยออนไลน์ โลกสื่อออนไลน์: สร้างสรรค์และปลอดภัยอย่างไรให้เด็กและเยาวชน ในระดับชั้นมัธยมศึกษา (ม.1-ม.6)
Next article
Hello world!