การแบล็กเมลทางเพศ (Sextortion)
การแบล็กเมลทางเพศ อาจเป็นการล่อลวงไปละเมิดทางเพศจริง ๆ หรือถูกโน้มน้าวชักจูงหรือล่อลวงให้แสดงโชว์ลามกผ่านกล้องแล้วถูกบันทึกภาพวิดีโอเอาไว้ข่มขู่เรียกเงิน ประจานให้เสื่อมเสียชื่อเสียง หรือขายทำเงินบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งภาพหรือคลิปนั้นก็จะถูกนำมาใช้ข่มขู่ให้ยินยอมในการแสดงครั้งต่อ ๆ ไป ในกรณีที่ถูกล่อลวงชักจูงไปจริง ๆ อาจจะกลายเป็นการผลักดันเข้าสู่วงการโสเภณีเด็กหรือธุรกิจค้ากามเด็กต่อไป
กรณีที่พบบ่อยในระยะหลังนี้ ได้แก่การ “แลกกล้อง” หมายถึงการถ่ายทอดสดพฤติกรรมทางเพศระหว่างสองฝ่าย โดยจะถูกโน้มน้าวชักจูงหรือล่อลวงให้กระทำพฤติกรรมทางเพศ กระทำต่อตนเอง กระทำกับผู้อื่น หรือถูกกระทำ ฝ่ายที่เป็นเหยื่อไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็นกลุ่มมิจฉาชีพอัดคลิปวิดีโอเอาไว้ข่มขู่เรียกเงิน เอาคลิปวิดีโอไปขายในกลุ่มที่มีรสนิยมทางเพศกับเด็ก หรือปล่อยขายทำกำไรบนเว็บไซต์สื่อลามกอนาจารทั้งในประเทศและต่างประเทศ
วิธีการ
- ล่อลวงเหยื่อไปละเมิดทางเพศ หรือชักชวนถ่ายทอดสดพฤติกรรมทางเพศ
- บันทึกภาพ/คลิปทางเพศของเหยื่อไว้
- นำภาพ/คลิปมาข่มขู่เหยื่อเรียกเงิน หรือบีบบังคับให้ส่งภาพ
การป้องกัน
- ไม่รับคนแปลกหน้าเป็นเพื่อน
- ปิดกั้น ถ้ามีการชวนพูดคุยทางเพศ
- ไม่เข้ากลุ่มลับต่าง ๆ
- ไม่ส่งรูป/ข้อมูลส่วนตัวให้คนอื่น
การแก้ไข
- เก็บหลักฐาน คนโพสต์และเผยแพร่ให้ปรากฏชัดเจน ส่วนใครที่นำไปแชร์ต่อ ให้เก็บหลักฐานไว้เช่นกัน เนื่องจากมีความผิดทั้งคนโพสต์และคนแชร์ ในส่วนของการเก็บหลักฐานการข่มขู่ รีดทรัพย์ ได้แก่ ข้อความ แชทสนทนา , คลิปเสียง
- ขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่
- แจ้งตำรวจเพื่อดำเนินคดี
- ปิดกั้นการเข้าถึงของคนร้าย
- อย่าเชื่อคำขู่ของคนร้าย
ความผิดทางกฎหมาย
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 338 ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่น ให้ยอมให้ หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยขู่เข็ญว่าจะเปิดเผยความลับซึ่งการเปิดเผยนั้นจะทำให้ผู้ถูกขู่เข็ญหรือบุคคลที่สามเสียหาย จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานรีดเอาทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท
พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (4) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ส่วนคนที่แชร์ต่อ จะมีความผิดตามมาตรา 14 (5) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1) (2) (3) หรือ (4) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
